สัมผัส 7 ประสบการณ์ที่ห้ามพลาดในจอร์เจีย
จอร์เจีย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2500 ปี มีภาษาของตนเองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่ยังมีการใช้อยู่ ตั้งอยู่ในเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นพื้นที่การบรรจบของยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก ดังนั้นจอร์เจียจึงมีความน่าสนใจที่เมื่อได้มาแล้วต้องไม่พลาดที่สัมผัส 7 ประสบการณ์ดังนี้
1.คชาปุรี อาหารจอร์เจีย
มาเปิดกันด้วยเมนูอาหารพื้นถิ่นที่มีอัตตาลักษณ์หนึ่งเดียวที่แสนอร่อยของจอร์เจีย คชาปุรี(Khachapuri) ที่หน้าตาเป็นแป้งแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เติมด้านบนด้วยส่วนผสมของซีสนมแพะและชีสนมแกะ แล้วใส่นมลงไปช่วยให้ชีสทั้งสองผสมสม่ำเสมอมากขึ้น นำไปอบไม่นานนัก ก่อนที่จะสุกดีเพียงเล็กน้อยจะนำออกมาใส่ไข่บนชีสแล้วนำกลับไปอบ เมื่อเสร็จแล้วก็ยังได้ไข่แดงที่เป็นยางมะตูม เสิร์ฟทันทีที่ออกจาเตาพร้อมทาเนย และถ้าคุณต้องการประสบการณ์ที่สมบูรณ์ ให้กินแบบคนจอร์เจีย เมื่อคชาปุรีมาถึงโต๊ะ ขั้นแรกให้ผสมไข่กับเนยลงในชีสโดยใช้ส้อม จากนั้นคุณฉีกขนมปังชิ้นแล้วจุ่มลงในชีสก่อนจะตักเข้าปาก
2. เมืองแห่งไวน์
จอร์เจียเป็นหนึ่งในภูมิภาคไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หุบเขาที่อุดมสมบูรณ์และเนินลาดของ Transcaucasia เป็นแหล่งปลูกองุ่นและการผลิตไวน์ยุคหิน เป็นเวลาอย่างน้อย 8000 ปี เนื่องจากไวน์มีมานานนับพันปีในประวัติศาสตร์จอร์เจียและบทบาททางเศรษฐกิจที่โดดเด่น ประเพณีของไวน์จึงถือว่ามีความเกี่ยวพันและแยกออกจากเอกลักษณ์ประจำชาติไม่ได้ ในปี 2013 ยูเนสโกได้เพิ่มวิธีการทำไวน์แบบจอร์เจียโบราณโดยใช้ไหดิน Kvevri ลงในรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก มาถึงจอร์เจียแล้วอย่าพลาดการจองทริปไวน์เทสต์กันสักวันหนึ่ง ซึ่งจะมีทัวร์ภูมิภาคไวน์ Kakheti เต็มวันจากเมืองทบิลิซิ หรือ ทัวร์ชิมไวน์แบบส่วนตัวเต็มวันในเขต Kakheti พร้อมอาหารกลางวันและชิมไวน์ 3 แห่ง หรือให้พรีเมียมกันไปเลยก็ต้องทัวร์ส่วนตัว Kakheti- Wine Region แบบเต็มวัน เลือกติดต่อซื้อทัวร์ล่วงหน้าที่ https://bit.ly/3zMBpa5
3. สถาปัตยกรรมเก่า-ใหม่ที่โดดเด่นของจอร์เจีย
ทบิลิซี เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมโบราณและแนวโน้มที่ทันสมัย เริ่มต้นการสำรวจเมืองจากการเดินทางไปยังพื้นที่ประวัติศาสตร์และเยี่ยมชมโบสถ์อัสสัมชัญ โบสถ์อาร์เมเนียเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของเมือง และโรงอาบน้ำกำมะถัน – โรงอาบน้ำหลวงที่มีชื่อเสียง (XVII-XIX cc.) ตั้งตระหง่านอยู่บนน้ำพุกำมะถันธรรมชาติอันอบอุ่น และไปยังป้อมปราการนาริคาลา ป้อมปราการโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่สี่
ทั้งยังมีอาคารสมัยใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยสถาปัตยกรรมล้ำยุค ซึ่งสร้างขึ้นใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวในยุคกลาง แสดงถึงจินตนาการอันล้ำเลิศของสถาปนิก เช่น House of Justice, Music Hall, Ministry of Internal Affairs, The building of the Prosecutor’s Office ในเมือง Tbilisi ยังมี «Alphabet» Tower, House of Justice ที่เมือง Batumi อาคาร Border Crossing ที่เมือง Sarpi อาคาร House of Parliament ที่เมือง Kutaisi และ House of Justice ที่เมือง Mestia
4. อาบน้ำพุร้อนกำมะถัน
อบาโนตูบานี (Abanoubani) ภาษาจอร์เจีย แปลว่า "เขตอาบน้ำ เป็นย่านเก่าแก่ของทบิลิซี ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการอาบด้วยกำมะถัน เขตนี้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ Mtkvari ที่เชิงป้อม Narikala เป็นส่วนประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง เป็นที่ซึ่งตามตำนานของค้นพบน้ำพุร้อนและต่อมาได้ก่อตั้งเมืองหลวงใหม่ และชื่อของเมืองก็เชื่อมโยงกับน้ำพุร้อน ด้วย ทบิลิซีหมายถึง 'สถานที่อบอุ่น' นั้นเอง การแช่ตัวและขัดผิวในอ่านน้ำกำมะถันนั้นเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบเนื่องกันมายาวนาน ห้องอาบน้ำนี้เปิดตลอดทั้งปี แต่คนในพื้นที่นิยมไปดูหนาวมากกว่า และเพิ่มการสครับผิวแบบ Kisi ที่จะมีคนมานวดให้ เป็นการกำจัดคราบไคลเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอย่างหมดจด โรงอาบน้ำส่วนใหญ่รับจองล่วงหน้าทางออนไลน์ เป็นการรับประกันจะไม่ผิดหวังเมื่อเดินทางไปถึงที่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่น
5. ชมเมืองหลวงขณะนั่งกระเช้าลอยฟ้า
เคเบิลคาร์ทบิลิซิเชื่อมต่อ Rike Park กับป้อมปราการ Narikala การเดินทางโดยกระเช้าลอยฟ้า Rike-Narikala คุณสามารถเข้าถึงทิวทัศน์ที่สวยงามและสวยงาม โดยนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปที่ป้อมนาริกาลา กระเช้าลอยฟ้าทบิลิซิเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้า และเริ่มการสำรวจเมืองทบิลิซิจากบนนั้น ทั้งยังสามารถเดินไปรอบ ๆ การเดินป่าบนภูเขาได้ไกลเท่าที่คุณต้องการ เราขอแนะนำให้ใช้การเดินป่าเพื่อลงจากนาริกาลาแทนการใช้เคเบิลคาร์ ซึ่งจะได้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
6. นั่งรับประทานอาหารกลางแจ้งที่กลางเมืองเก่า
ความผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรปในย่านเมืองเก่า ถนนที่คดเคี้ยวและคับคั่งเหมือนดั่งเมืองเก่าในเอเชียหรืออาหรับ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุโรส รัสเซีย และอาร์ตนูโว ถนนสายหลักของเมืองเก่า คือ Kote Abkhazu เชื่อมต่อกับจัตุรัส Freedom Square Meidan ทั้งยังมีพื้นที่ตั้งของบาร์ ร้านอาหาร ไนต์คลับ และร้านกาแฟ ไปตามแนวถนนเลียบทางเดินเท้า
7. ชมวิวหุบเขาคอเคซัสที่อนุสาวรีย์มิตรภาพระหว่างรัสเซีย-จอร์เจีย
Georgievsk สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองร้อยปีของสนธิสัญญา Georgievsk และมิตรภาพอย่างต่อเนื่องระหว่าง จอร์เจีย และรัสเซีย ตั้งอยู่บนทางหลวง ใกล้เมืองสกีรีสอร์ทของ Gudauri และผ่าน Jvari อนุสาวรีย์เป็นหินกลมขนาดใหญ่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตที่สามารถมองเห็นหุบเขาปีศาจในเทือกเขาคอเคซัส ภายในอนุสาวรีย์เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วทั้งโครงสร้าง และแสดงให้เห็นฉากประวัติศาสตร์จอร์เจียและรัสเซีย